วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กรณีศึกษา : SF Cinema City นำไอทีพัฒนาธุรกิจและบริการ

กรณีศึกษา : SF Cinema City นำไอทีพัฒนาธุรกิจและบริการ
                เอส เอฟ ซีนีม่า ซิตี้ ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายภาพยนตร์ และธุรกิจโรงภาพยนตร์ในภาคตะวันออก และในปี พ.ศ. 2542 ได้ขยายธุรกิจมาสู่กรุงเทพมหานคร โดยมีศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์เป็นที่ตั้งโครงการสาขาแรก เนื่องจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่นอกจากจะแข่งขันด้วยการขยายสาขาให้คลอบคลุมพื้นที่แล้ว การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าด้วยบริการใหม่ๆ ก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่จะมัดใจลูกค้าให้กลับมาใช้บริการอีกดังนั้น ผู้บริหารโรงภาพยนตร์จึงได้นำระบบตั๋วภาพยนตร์ ที่ชื่อว่า SF I-Ticket ซึ่งสามารถรับจองที่นั่งได้จากเว็บไซต์ www.sfcinemacity.com โดยตรง ผู้ใช้สามารถเห็นที่นั่งว่างทั้งหมดในโรงภาพยนตร์เหมือนกับเคาน์เตอร์ขายตั๋วที่โรงภาพยนตร์ และซื้อตั๋วที่นั่งที่ต้องการได้ โดยจ่ายค่าตั๋วผ่านบัตรเครดิต และผู้ใช้บริการสามารถพิมพ์ตั๋วจากบ้านด้วยบริการ Print@home ซึ่งพร้อมเข้าโรงภาพยนตร์ได้ทันที โดยไม่ต้องไปถึงโรงภาพยนตร์ก่อนครึ่งชั่วโมง

1. ระบบที่เอส เอฟ ซินิม่า ซิตี้ นำมาใช้นี้ส่งผลต่อเจ้าของธุรกิจและผู้ใช้บริการอย่างไรบ้าง
                ตอบ ทำให้เจ้าของธุรกิจมีความได้เปรียบต่อคู่แข่งขัน เพราะสามารถครอบคลุมการให้บริการแก่ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการได้ทั่วทุกพื้นที่ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ส่งผลให้ธุรกิจมีความเจริญก้าวหน้า ส่วนผู้ใช้บริการก็จะได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการ ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปซื้อตั๋วภาพยนตร์ เกิดความพึงพอใจในการให้บริการที่สะดวกและรวดเร็ว

2. ระบบที่นำมาใช้นี้มีข้อจำกัดอะไรบ้าง
                ตอบ       1.  ผู้ใช้บริการต้องมีความรู้ ทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต
                                2. เจ้าของธุรกิจต้องมีเงินทุนสูง
                                               
3. หากจะนำระบบไอทีของ เอส เอฟ ซีนีม่า ซิตี้ มาให้บริการด้านอื่นๆ จะแนะนำให้นำไอทีมาต่อยอดได้อย่างไรบ้าง
                ตอบ สามารถนำระบบไอทีของ เอส เอฟ ซินีม่า ซิตี้ มาต่อยอดในให้บริการเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหาร หรือเครื่องดื่ม คือ การให้บริการลูกค้าโดยการสามารถสั่งจองโต๊ะ อาหารและเครื่องดื่ม ได้ล่วงหน้า โดยผ่านระไอทีของ เอส เอฟ ซินีม่า ซิตี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น